รีวิวเครื่องเล่นเกม ASUS ROG Ally: เครื่องเล่นที่สามารถเล่นเกม PC ได้!!

รีวิวเครื่องเล่นเกม ASUS ROG Ally

สารบัญ

การเล่นเกม PC บนเครื่องเล่นเกมได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ซึ่งเราจะได้เห็นอุปกรณ์หลากหลายตัวที่สนใจเช่น Valve, Ayaneo, GPD และอื่น ๆ และตอนนี้ ASUS ROG Ally ก็กำลังตามมาด้วยเช่นกัน

ด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว เท่ เงียบ ที่มาพร้อมกับจอแสดงผล 1080p ที่สวยงาม และชิป Ryzen Z1 Extreme ตัวใหม่จาก AMD ซึ่งอาจถือเป็นคู่แข่งที่ทรงพลังที่สุดของ Steam Deck นอกจากนี้มันยังใช้ Windows 11 แทน Steam OS ดังนั้นจึงมีเข้าถึงเกมและสามารถเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเครื่องเล่น Ally มีราคาแพงกว่าเล็กน้อยเนื่องจากเป็นการและเปลี่ยนในเรื่องของประสิทธิภาพพิเศษที่มากขึ้น ดังนั้นวันนี้เราจะไปดูกันดีกว่าครับว่า ตัวเครื่องเล่นเกมนี้จะดีกว่าอุปกรณ์พกพารุ่นอื่นๆ หรือไม่อย่างไร 

ข้อดี

+ ประสิทธิภาพที่แข็งแกร่ง

+ หน้าจอแสดงผลที่ยอดเยี่ยมถึง 1080p

+ ลำโพงภายในตัว

+ พัดลมที่ค่อนข้างเงียบ

+ ตัวเชื่อมต่อ XG Mobile

+ การออกแบบที่เพรียวบางและเท่ไปพร้อมกัน

ข้อเสีย

– อายุการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างสั้น

– ไม่มีทัชแพด

– ไม่รวมเคส

– Windows 11 ให้รู้สึกเทอะทะ

การออกแบบ

การออกแบบ

ด้วยความกว้าง 11 นิ้วและหนัก 1.34 ปอนด์ จึงทำให้ Ally มีขนาดคล้ายกับ Steam Deck แต่ตัวเครื่องจะมีความหนากว่า Steam Deck ครึ่งหนึ่งที่ประมาณ 0.83 นิ้ว แต่ข้อที่ควรพิจารณาอย่างแรกของ Ally คือการที่ไม่มีทัชแพดเหมือนที่ Valve มีฉะนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการการเล่นด้วยใช้เมาส์และคีย์บอร์ดแบบดั้งเดิมก็จะน่าผิดหวัง

ทำให้คุณมีเลย์เอาต์สไตล์ Xbox ที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีพร้อมจอยสติ๊กสองตัว ปุ่มใบหน้าและทริกเกอร์ไหล่แบบมาตรฐาน รวมถึงทางลัดพิเศษสำหรับการตั้งค่าด่วนและแอพ Armory Crate ของ ASUS นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์ลายนิ้วมือที่ใช้งานสะดวกซึ่งติดตั้งอยู่ในปุ่มเปิดปิด ปุ่มปรับระดับเสียง และพอร์ต USB-C หนึ่งพอร์ต ซึ่งคุณสามารถใช้สำหรับข้อมูลและการชาร์จได้ด้วยตัวเอง และยังสามารถใช้เชื่อมต่อกับ ASUS XG Mobile Dock ได้อีกด้วย และเช่นเดียวกับ Steam Deck Ally ที่มีช่องเสียบการ์ด microSD สำหรับพื้นที่เก็บข้อมูลที่ขยายได้ ซึ่งมันดีและเป็นประโยชน์อย่างมาก

โดยรวมแล้วตัวเครื่องให้การตั้งค่าที่สามารถใช้งานได้ดี การควบคุมทั้งหมดเข้าถึงได้ง่าย และผมยังไม่พบปัญหาปุ่มค้างเหมือนที่เคยได้ยินจากผู้ใช้รายอื่น ผมยังชื่นชมขอบจอที่เล็กลงของ Ally เนื่องจากมันทำให้อุปกรณ์รู้สึกกะทัดรัดมากขึ้น แม้ว่าหน้าจอขนาด 7 นิ้วจะมีขนาดเท่ากับ Steam Deck ก็ตาม แต่ด้วยความต้องการที่จะทำให้หน้าจอบางลงก็ส่งผลเสีย 1 อย่างนั้นคือ ด้ามจับที่ด้านหลังก็มีขนาดที่เล็กลงเช่นกัน ฉะนั้นในขณะที่ใช้งานอยู่นั้นอาจจะทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยหรือสะดวกสบายเท่าที่ควร

หน้าจอแสดงผล

หน้าจอแสดงผล

สำหรับการแสดงผล หน้าจอของ Ally เป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่เป็นพาเนล 120Hz เท่านั้น แต่ความละเอียด 1080p ยังคมชัดกว่า 800p ของ Steam Deck ซะอีก ยิ่งไปกว่านั้น Ally ยังมีการแสดงสีสันที่สวยงามมากขึ้นและสว่างขึ้นเมื่อสัมผัสที่ประมาณ 475 nits เทียบกับเกือบ 400 nits บนอุปกรณ์พกพาของ Valve

และหากไม่ได้เปรียบเทียบกับอุปกรณ์ตัวไหน หน้าจอของ Ally จะแสดงด้วยเฉดสีที่หลากหลายและรายละเอียดที่คมชัดอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งมันเป็นประโยชน์อย่างมากหากเราพยายามจะอ่านคำแนะนำเครื่องมือเล็กๆ น้อยๆ บนหน้าจอขนาดเล็กนี้

ประสิทธิภาพ

ประสิทธิภาพ

สำหรับประสิทธิภาพนั้น Ally นั้นดูจะเหนือกว่า Steam Deck เนื่องจากมันรองรับ Z1 Extreme APU ตัวใหม่ของ AMD และ RAM ขนาด 16GB แต่โชคไม่ดีนักในช่วงแรกที่ผลงานของ Ally ค่อนข้างแย่เนื่องจากเมื่อทั้ง Ally และ Steam Deck ตั้งค่าไว้ที่ 15 วัตต์ อัตราเฟรมจึงใกล้เคียงกันมาก ใน Shadow of the Tomb Raider ที่ 720p และการตั้งค่าสูง Ally เฉลี่ย 43 fps ในขณะที่ Steam Deck อยู่ที่ 42 fps ดังนั้นจึงทำให้ 2 อุปกรณ์นี้มีความใกล้เคียงกันมาก

หลังจากนั้นผมได้ทำการอัปเดตระบบเพื่อติดตั้งไดรเวอร์และเฟิร์มแวร์ใหม่ที่ ASUS ปล่อยออกมาหลังจากเปิดตัว 2 สัปดาห์ซึ่งเป็นการอัปเดตระบบที่สมบูรณ์แบบ อัตราเฟรมเพิ่มขึ้น 15 ถึง 25 % และอัตราเฟรมแตะ 54 fps ใน Shadow of the Tomb Raider และ 50 fps ใน Cyberpunk 2077 ที่การตั้งค่าเดียวกัน

และนี้คือปรับปรุงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน และดียิ่งขึ้นไปอีกเนื่องจากในขณะที่ Steam Deck มีกำลังไฟสูงสุดที่ 15 วัตต์ Ally มีโหมด Turbo ที่ช่วยเพิ่มการดึงพลังงานทั้งหมดเป็น 25 วัตต์หรือ 30 วัตต์หากคุณเสียบปลั๊ก และเมื่อเปิดใช้งานโหมดเทอร์โบ 25 วัตต์ จะทำให้เรารับได้ถึง 60 fps ใน Tomb Raider และ 67 fps ใน Cyberpunk ซึ่งถือว่าน่าประทับใจอย่างมากสำหรับ PC แบบพกพา

อายุการใช้งานแบตเตอรี่

อายุการใช้งานแบตเตอรี่

แน่นอนว่าด้วยประสิทธิภาพทั้งหมดที่เรากล่าวมาก่อนหน้านี้ล้วนทำให้ความอดทนของแบตเตอรี่มันลดลง โดยจากการใช้งานแล้วผมพบว่า Ally จะใช้งานได้อยู่ที่ 1 ชั่วโมงครึ่ง – 2 ชั่วโมงเท่านั้น ในขณะเดียวกัน Steam Deck ให้คุณใช้งานได้ถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง – 4 ชั่วโมงหรืออาจจะนานกว่านั้นแล้วแต่สิ่งที่คุณเล่น

เพื่อให้ทุกคนเข้าใจได้ง่าย ผมได้ทดสอบการเล่น Diablo IV บนทั้งสองเครื่องด้วยการตั้งค่าระดับกลาง โดยเริ่มต้นที่ 100 เปอร์เซ็นต์และพบว่า Ally ใช้เวลาเล่นจะแบตเตอรี่หมดอยู่ที่ 1 ชั่วโมง 31 นาที แต่ Steam Deck อยู่ที่ 2 ชั่วโมง 7 นาที และอย่าลืมว่า Diablo IV ไม่รองรับ Linux ดั้งเดิม ดังนั้น Steam Deck จึงรับมันในเลเยอร์จำลองซึ่งใช้พลังงานพิเศษบางอย่าง และสามารถสรุปง่ายดังนี้ หากคุณมองหาเครื่องเล่นเกม PC พกพาที่ให้อายุการใช้งานที่ยาวนาน Steam Deck จะเหมาะสมมากกว่า

เสียง

เสียง

สำหรับเสียง Ally มีลำโพงสเตอริโอด้านหน้าในตัวเครื่อง ซึ่งให้เสียงที่ดีกว่าสิ่งที่คุณมักจะได้รับจากแล็ปท็อปราคาใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจนั้นคือ เสียงพัดลมที่ด้านหลังที่แทบไม่ได้ยินเลยซึ่งมันเงียบอย่างน่าประหลาดมาก ซึ่งเมื่อเทียบกับ Steam Deck แล้วมันช่างแตกต่างมาก เนื่องจากผมสามารถเล่น Ally ได้ในขณะที่คนในครอบครัวกำลังดูโทรศัพท์ได้อย่างสบายใจ

Poster 24

Poster 24

ผู้คว่ำหวอดในวงการเกมส์แนวหน้าในประเทศไทย

Facebook
Twitter